วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2560

อนุสรณ์สถานยุทธนาวีที่เกาะช้าง




อนุสรณ์สถานยุทธนาวีเกาะช้าง 

     อนุสรณ์สถานยุทธนาวีที่เกาะช้าง ตั้งอยู่ที่ถนนสุขาภิบาล 3 ตำบลแหลมงอบ ภายในบริเวณมีลักษณะเป็นอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์หันพระพักตร์ไปยังบริเวณยุทธนาวีเกาะช้าง
และภายใต้อนุสาวรีย์ยังเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ ที่ออกแบบคล้ายเรือรบ เพื่อให้รำลึกถึงประวัติศาสตร์ของกรมกลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์กับประวัติศาสตร์การสู้รบของกองทัพเรือไทยกับกองกำลังเรือรบของฝรั่งเศส โดยจำลองภาพเหตุการณ์ของวันที่ 16-17 มกราคม พ.ศ. 2484 ซึ่งกองกำลังของฝรั่งเศสในอินโดจีนได้ส่งกำลังทางเรือเข้ามาทางหัวเมืองชายทะเลตะวันออกของไทย พร้อมเครื่องบินลาดตระเวณทางอากาศ กองทัพเรือได้จัดกำลังทางเรือปกป้องน่านน้ำไทยและได้ปะทะกันอย่างองอาจกล้าหาญเรือรบหลวงธนบุรีได้ยิงต่อสู้จนเรือข้าศึกถอยไปทั้งๆที่ถูกยิงเสียหายอย่างหนักจนจมลงในที่สุด พร้อมการสูญเสียกำลังพลประจำเรือถึง 36 นาย
การรบที่เกาะช้าง หรือที่รู้จักกันในนาม ยุทธนาวีเกาะช้าง เป็นเหตุการณ์รบทางเรือที่เกิดขึ้นในกรณีพิพาทไทย-อินโดจีนฝรั่งเศส อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ไทยเรียกร้องให้ปรับปรุงเส้นแบ่งเขตแดนไทย-อินโดจีนฝรั่งเศสเสียใหม่ โดยใช้แนวร่องน้ำลึกเป็นเกณฑ์ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศและหลักความยุติธรรม และให้ฝรั่งเศสคืนดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขงที่ฝรั่งเศสยึดไปจากเหตุการณ์ ร.ศ. 112 ให้ไทย ยุทธภูมิในการรบครั้งนี้เกิดขึ้นที่บริเวณด้านใต้ของเกาะช้าง จังหวัดตราด เมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2484 และถือเป็นการรบทางทะเลครั้งเดียวในประวัติศาสตร์กองทัพเรือไทย และรัฐบาลวิชีฝรั่งเศสในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง อีกด้วย
ซึ่งทางกองทัพเรือได้จัดงานรำลึกวีรกรรมแห่งยุทธนาวีครั้งนั้น ในวันที่ 17-21 มกราคมของทุกปี


พิพิธภัณฑ์ อนุสรณ์สถานยุทธนาวีที่เกาะช้าง


   นอกจากนี้บริเวณอนุสรณ์สถานยุทธนาวีที่เกาะช้าง ได้จัดให้เป็นสวนสำหรับพักผ่อน ไว้นั่งชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามติดกับทะเล มองเห็นหมู่เกาะต่างๆโดยเฉพาะเกาะช้างได้












งอบใบจาก น้ำเชี่ยว




งอบใบจาก
งอบใบจาก

งอบใบจาก



งอบ ความหมายตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หมายถึง เครื่องสวมหัวสำหรับกันแดดและฝน สานด้วยตอกไม้ไผ่ กรุด้านในใบลาน รูปคล้ายกระจาดคว่ำ มีรังสำหรับสวม
งอบใบจาก
งอบใบจาก เป็นศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านที่สืบทอดมากว่าร้อยปี นิยมทำกันตาม ชนบทแทบทุกหมู่บ้าน จุดมุ่งหมายเดิม คนในท้องถิ่นจะทำไว้ใช้กันแดด กันฝน ใช้ในครอบครัว โดยเฉพาะชาวนา ชาวสวน ต่อมาได้กลายเป็นอาชีพของบางหมู่บ้าน เป็นงานหัตถกรรมของสมาชิกในบ้านที่ว่างงาน เพื่อนำออกจำหน่ายให้แก่คนท้องถิ่น ในจังหวัดตราด และนักท่องเที่ยว
ปัจจุบันหมู่บ้านที่ได้รับการส่งเสริมการทำงอบเป็นอาชีพพื้นบ้าน คือ หมู่บ้านน้ำเชี่ยว ตำบลน้ำเชี่ยว ภำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด ทำได้หลายรูปแบบตามชื่อ เช่น ทรงปลาดาว ทรงเห็ด ทรงนเรศวร ทรงกะทะ ฯลฯ
งอบใบจาก
วัสดุที่ใช้
1. ใบจากขนาดใบพองามไม่แก่หรืออ่อนเกินไป
2. เชือก ขนาดพอเหมาะที่ใช้สำหรับทำขอบ
3. เข็ม ขนาดพอสมควร
4. ตอกไม้ไผ่เหลาเป็นเส้นเล็ก ๆ ทำเป็นขอบหมวก
5. ด้าย ขนาดพอเหมาะกับเข็ม
งอบใบจาก
วิธีการทำงอบใบจาก ใช้ใบจากประมาณ 25-30 ใบ มาเรียงซ้อนกัน เย็บตรงกลาง แล้วหันให้เป็นวงกลมใช้เชือกมัดไว้ตรงกลาง เย็บเป็นวงกลม โดยมีเชือกตรงกลาง เป็นศูนย์กลาง เมื่อเย็บจนครบตามที่ต้องการแล้ว ก็ตัดเป็นรูปทรงที่ต้องการ และเข้าขอบ เพื่อให้งอบแข็งแรง โดยใช้ไม้ไผ่เส้นเล็ก ๆ หลายเส้นมาประกบที่ขอบหมวกทั้งด้าน นอกและด้านใน และใช้เชือกเย็บมัดให้แน่นนำหมวกที่ทำเสร็จแล้วไปตากแดดให้แห้ง นำมาทาด้วยน้ำมันยาง น้ำมันสน หรือแซลแลตตามความต้องการ เวลาจะใช้นำเอารัง (ภาษาชาวบ้านเรียกว่า เสวียน) ซึ่งสานเป็นรูปทรงกลมยาวขนาดศีรษะ ใส่ด้านใน ใช้ไม้ไผ่เหลาให้เรียบร้อย ขัดกับตัวงอบกันหลุด
การประยุกต์ใช้ ปัจจุบันจังหวัดตราดเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทย จึงมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก ผู้สวมหมวกใบจากจึงพัฒนารูปแบบทรงหลาย ๆ รูปทรง มีทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ตามความต้องการของตลาด และได้นำมาประยุกต์ใช้ คุมกันแดด ของนักท่องเที่ยว ใช้ประกอบการแสดง ใช้ตกแต่งบ้านและสถานที่ต่าง ๆ ให้เป็นของที่ระลึกสำหรับเพื่อนฝูง











วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2560

ตับรับ อาหารไทย



มัสมั่นไก่


"มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่า รสร้อนแรง ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ ใฝ่ฝันหา " มาเป็นกลอนกันเลยทีเดียว วันนี้เอาสูตรแกงมัสมั่นไก่มาฝากกันค่ะ แกงชนิดนี้รสชาติเป็นที่ถูกอกถูกใจของหลายคน เพราะมีทั้ง รสเผ็ด หวาน และหอมมันจากกะทิ แกงมัสมั่น เป็นแกงอีกชนิดหนึ่งที่บอกเล่าความพิถีพิถันของอาหารไทยได้ดี ที่จะต้องใส่ใจตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบที่ดีมาทำเป็นพริกแกง จากนั้นก็พิถีพิถันในการปรุงจนได้แกง

ส่วนผสมและสัดส่วน
พริกแกงมัสมั่น

1. พริกแห้งเม็ดใหญ่แช่น้ำไว้ 5-8 เม็ด
2. พริกขี้หนูแห้ง 5 เม็ด
3. รากผักชีหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
4. ลูกผักชีคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
5. ยี่หร่าคั่ว1 ช้อนชา
6. ลูกกะวานคั่ว 1 ผล
8. อบเชยคั่ว 1 ก้าน
9. ข่าซอย 1 ช้อนชา
10. ตะไคร้ 2 ช้อนโต๊ะ
11. กระเทียมเผา 2 ½ ช้อนโต๊ะ
12. หอมแดงเผา 2 ช้อนโต๊ะ
13. พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
14. กะปิ 2 ช้อนชา
15.เ กลือ ¾ ช้อนชา

แกงมัสมั่นไก่

1. น่องไก่ หรืออกไก่ ½ กิโลกรัม
2. พริกแกงมัสมั่นไก่ 200 กรัม (ถ้าชอบเผ็ดมากเพิ่มได้ค่ะ)
3. มันฝรั่งล้างและต้มให้สุกหั่นเป็นชิ้นใหญ่ๆ 4-5 หัว
4. หอมใหญ่ 3 หัว
5. ถั่วลิสงคั่ว ¼ ถ้วย
6. น้ำปลาอย่างดี ¼ ถ้วย
7.น้ำตาลปี๊บ ½ ถ้วย
8. น้ำมะขามเปียก ¼ ถ้วย
9. หัวกะทิ 1 ถ้วย
10. หางกะทิ 4-5 ถ้วย

วิธีปรุง
1.เคี่ยวหัวกะทิจนแตกมันใส่พริกแกงมัสมั่นลงไปผัดให้หอม ใส่น่องไก่ลงไปผัดจนสุก
2.เติมหางกะทิลงไป เคี่ยวจนเนื้อไก่เปื่อยด้วยไฟเบา
3.ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลปี๊บและน้ำมะขามเปียก จากนั้นใส่หัวหอมและมันฝรั่งลงไป รอจนเดือดอีกครั้งโรยถั่วลิสงคั่วลงไป ปิดไฟตักใส่ชามทานร้อนๆกับข้าว หรือทานกับโรตีก็อร่อยไปอีกแบบค่ะ
เคล็ดลับน่ารู้
มัสมั่น...แกงแก้วตา หอมยี่หร่า รสร้อนแรง...

หลายคนอาจจะเคยท่องกาพย์บทนี้กันจนจำได้ แล้วรู้หรือไม่คะว่า แกงมัสมั่นแท้จริงแล้วมีที่มาจากไหน
จริงๆแล้วแกงมัสมั่นได้รับอิทธิพลมาจากอาหารของชาวมลายู ชาวไทยทางภาคใต้หรือผู้ที่เป็นมุสลิมจะเรียกแกงชนิดนี้ว่า “ซาละหมั่น” ซึ่งรสชาติแบบดั้งเดิมนั้นจะออกเค็มและมัน และคนไทยนำมาปรับเปลี่ยนสูตรให้ถูกปากตัวเองมากขึ้น กลายเป็นรสชาติออกไปทางหวานนำ

แกงมัสมั่นทางภาคใต้นั้นไม่ได้ทำจากเครื่องแกงอย่างในภาคกลาง แต่จะใช้ การผสมเครื่องเทศต่างๆทั้งลูกผักชี ยี่หร่า พริกอินเดียและพริกไทย ป่นผสมเข้าด้วยกันเป็นผงเครื่องเทศสำหรับมัสมั่น แล้วนำไปผัดกับน้ำมันหอมเจียว

แต่สูตรแกงมัสมั่นแบบมลายูดั้งเดิมนั้น จะใส่กานพลู อบเชย ลงไปผัดกับน้ำมันและหอมแดงจนหอม แล้วใส่พริกอินเดีย ยี่หร่า พริกไทย ลงผัดให้เข้ากัน แล้วยังมีส่วนผสมของมะพร้าวคั่ว ผงขมิ้น ดอกไม้จีน และหน่อไม้จีนด้วย

และเมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ CNNGO ได้จัดอันดับ 50 เมนูอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก โดยการลงคะแนนเสียงทางเฟซบุค ปรากฏว่า แกงมัสมั่นได้รับเลือกให้เป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก

อ้างอิง : th.wikipedia.org

ขนมชั้นใบเตย ขนมไทยสีสันสดใส เนื้อเหนียวนุ่ม

 

ขนมไทยสีสันสดใส 


 ขนมชั้น เป็นขนมไทยอีกหนึ่งอย่างที่นิยม กินเป็นอย่างมาก เพราะหาซื้อได้ง่าย ๆ มีเนื้อที่เหนียวนุ่ม รสชาติหวานละมุน หอมกลิ่นใบเตยน่าลองทำเองจริง ๆ  

           ขนมชั้นที่เรากินกันทุก ๆ วันจะเห็นว่า มีหลายแบบให้เลือก ทั้งแบบชิ้นสี่เหลี่ยมเป็นชั้น ๆ แบบที่เป็นรูปดอกไม้ หรือนำมาพันเป็นขนมชั้นดอกกุหลาบก็มี และหลายคนก็อาจจะเข้าใจไปว่า ขนมชั้นนั้นทำยาก จริง ๆ แล้วง่ายกว่าที่คิดเยอะ ส่วนผสมก็มีไม่กี่อย่างเท่านั้น วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยนำวิธีทำขนมชั้นมาฝาก เป็นสูตรทำง่าย ๆ จาก คุณ RinS Cook Book (#Rinscookcook) ถ้าอยากจะลองทำขนมชั้นกินเอง ก็ลองมาดูมาชมกันต่อได้เลยจ้า

หมายเหตุ : ขนมชั้น 1 ชิ้น ให้พลังงานประมาณ 92 กิโลแคลอรี่

ส่วนผสม ขนมชั้น

          • น้ำตาลทราย 2 1/2  ถ้วย
          • น้ำกะทิ 4  ถ้วย
          • แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
          • แป้งมันสำปะหลัง 1/2 ถ้วย
          • แป้งท้าวยายม่อม 1 1/2  ถ้วย (หรือแป้งถั่วเขียว)
          • น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 1/2 ถ้วย
          • น้ำหอมกลิ่นมะลิผสมน้ำ 1/2 ถ้วย
          • ถาดหรือพิมพ์สี่เหลี่ยมสำหรับนึ่งขนม (ขนาด 10x10 นิ้ว หรือ 8x8 นิ้ว)

วิธีทำขนมชั้น

ขนมชั้น

          ใส่น้ำตาลทรายและกะทิลงในหม้อ คนผสมให้เข้ากันแล้วนำขึ้นตั้งไฟปานกลางประมาณ 5 นาที จนน้ำตาลทรายละลาย (ไม่ต้องรอให้เดือด) ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น

          นึ่งถาดหรือพิมพ์ในชุดนึ่งที่มีน้ำเดือด ประมาณ 15 นาที เตรียมไว้

ขนมชั้น

ขนมชั้น

          ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง และแป้งท้าวยายม่อมเข้าด้วยกัน ค่อย ๆ เทส่วนผสมน้ำกะทิลงไป ใช้มือนวดแป้งให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว นวดประมาณ 15 นาที จนแป้งไม่จับตัวเป็นก้อน จากนั้นนำไปกรองด้วยตะแกรง

ขนมชั้น

          แบ่งแป้งเป็น 2 ถ้วย โดยถ้วยที่ 1 ผสมกับน้ำใบเตย และถ้วยที่ 2 ผสมกับน้ำมะลิ คนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้

ขนมชั้น

          ทำชั้นที่ 1 โดยเทส่วนผสมสีขาว (เทส่วนผสมทุกชั้นประมาณ 1/3 ถ้วย) ลงในพิมพ์ ปิดฝา นึ่งประมาณ 5 นาที เปิดฝา เทส่วนผสมสีเขียวลงไป ปิดฝา นึ่งประมาณ 5 นาที ทำซ้ำเช่นเดิม สลับชั้นกันจนหมดแป้ง จะได้ประมาณ 9-10 ชั้น โดยชั้นสุดท้าย ให้นึ่งประมาณ 7 นาที ยกออกจากชุดนึ่ง วางพักทิ้งไว้จนเย็นสนิท (ประมาณ 3 ชั่วโมง)

ขนมชั้น

          นำขนมออกจากถาด จุ่มมีดลงในน้ำร้อน กดลงบนขนมเป็นชิ้น ๆ จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ




ขนมไม้หอมหวาน



ขนมไม้


Picture


ขนมน้ำตาลชักหรือตังเม  จังหวัดตราด

                      ขนมน้ำตาลชักหรือตังเม  เป็นขนมชนิดหนึ่งทำจากน้ำตาลหรือน้ำอ้อยที่เคี่ยวจนเหนียววิธีการทำขนมน้ำตาลชักหรือตังเมมีขั้นตอนที่สำคัญ 2 ขั้นตอนคือ  การเคี่ยวน้ำตาลและการชักน้ำตาลหรือตีนวลซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องอาศัยคามชำนาญและประสบการณ์  รสชาติหวาน  หอม  กรอบ  สามารถเก็บไว้ได้นาน   ตังเมกรอบรูปร่างจะคล้ายแท่งไม้สั้น ๆ รสชาติของตังเมกรอบหวานจัด หอมกลิ่นน้ำตาลไหม้ ไม่เหนียว แต่กรอบร่วน เคี้ยวเพลิน แต่สำหรับคนที่เป็นโรคเบาหวานโปรดระมัดระวังในการรับประทาน มิฉะนั้นระดับน้ำตาลในเลือดอาจสูงโดยไม่ต้องการได้  การเลือกซื้อตังเมกรอบ ให้ดูว่าบรรจุภัณฑ์มิดชิดดีหรือไม่ ตัวตังเมบีบแล้วไม่นิ่ม ไม่เหนียว(อย่าบีบแรง เดี๋ยวตัวตังเมหัก) สีตังเมออกเป็นสีธรรมชาติ น้ำตาลอ่อน ๆ ไม่มีจุดเชื้อรา ฉลากต้องระบุส่วนประกอบชัดเจน และมี อย. รับรอง รวมถึงบอกที่อยู่ของแหล่งผลิต จะได้ตังเมกรอบ สดใหม่ สะอาดไว้รับประทาน

ส่วนประกอบ
          1. น้ำตาลทราย   13   กิโลกรัม
          2. ถั่วลิสง           6    กิโลกรัม
          3. มะพร้าวขูด      1    กิโลกรัม
          4. แบะแซ (ลักษณะเป็นของเหลวใส เหนียวข้น หนืด เป็นกลูโคสไซรัปประเภทหนึ่ง)
วิธีทำ  
        นำส่วนประกอบทั้งหมดไปเคี่ยวจนข้นเหนียว เทใส่ภาชนะที่มีหล่อน้ำไว้เพื่อให้เนื้อตังเมจับตัวเป็นก้อน เสร็จแล้วนำไปยืดให้เป็นเส้นจนได้ขนาดตามต้องการ แล้วหักเป็นท่อน ๆ ก่อนบรรจุใส่ซองบรรจุภัณฑ์

บัตเตอร์แสนอร่อยย

บัตเตอร์เค้ก

บัตเตอร์เค้ก


  สูตรบัตเตอร์เค้ก เมนูเบเกอรี่หอมนุ่มชุ่มกลิ่นเนย มาพร้อมวิธีทำเค้กเนยสดหลากสไตล์ ถ้าเสิร์ฟกับเครื่องดื่มร้อน หรือเย็นสักแก้ว ฟินเอ่อล้นแน่นอน

          เค้กเนยสด หรือบัตเตอร์เค้ก (Butter Cake) เป็นอีกเมนูเบเกอรี่สุดฮอต มีเนื้อสัมผัสเนียนนุ่มละมุนลิ้น แถมยังหอมกลิ่นเนยเต็ม ๆ คำ กินได้ทุกเพศทุกวัย และยังทำง่าย อีกด้วย สำหรับใครที่สนใจอยากลองทำกินเอง กระปุกดอทคอมขอนำเสนอ 4 สูตรบัตเตอร์เค้ก วิธีทำเค้กเนยสดแบบง่าย ๆ ถ้าไม่มีเตาอบ เราก็มีสูตตรเค้กเนยสดหม้อหุงข้าวมาฝากด้วย ใครมีฝีมือดี ๆทำขายได้เลยนะเนี่ย เอ้า ! ใครพร้อมแล้วไปตีแป้งกัน 


1. บัตเตอร์เค้ก (เค้กเนยสดสูตรใส่น้ำเชือม)

          เค้กเนยสด หรือบัตเตอร์เค้กสูตรแรกที่ฮอตเสียเหลือกเกิน ต้องยกให้กับสูตรจากคุณหอมกาแฟ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ความพิเศษคือ เค้กเนยสดสูตรนี้ใส่น้ำเชื่อมเพื่อเพิ่มความฉ่ำเข้าไปอีกระดับ ทำใส่ในพิมพ์อะลูมิเนียมฟอยล์เพิ่มมูลค่า ถ้าแช่เย็นก่อนเสิร์ฟเนื้อจะแน่นมากขึ้น อร่อยเป๊ะกว่าเดิม อูย... ยั่วน้ำลายสุด ๆ ทำขายได้เลยนะเนี่ย
ส่วนผสม เค้กเนยสด

      • แป้งเค้ก 330 กรัม
      • นมผง 3 ช้อนโต๊ะ
      • ผงฟู 1/4 ช้อนชา
      • ผงวานิลลา 1 ช้อนชา (ถ้าใช้แบบน้ำให้ใส่รวมไปกับส่วนผสมของเหลว)
      • น้ำตาลทรายป่น 210 กรัม
      • ไข่ไก่ (เบอร์ 0) 6 ฟอง
      • น้ำเปล่า 45 กรัม
      • เอสพี (SP) 30 กรัม
      • น้ำเชื่อม 90 กรัม
      • เนยสดชนิดเค็มละลาย 360 กรัม 
      • พิมพ์อะลูมิเนียมฟอยล์ (ฟอยล์เบอร์ 4572 จำนวน 3 พิมพ์ กับเบอร์ 4618 จำนวน 2 พิมพ์)

ส่วนผสม น้ำเชื่อม

      • น้ำตาลทราย 500 กรัม
      • น้ำเปล่า 1 ถ้วย
      • ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/2 ช้อนชา

วิธีทำเค้กเนยสด

      • 1. ทำน้ำเชื่อมโดยใส่น้ำตาลทราย น้ำเปล่า และครีมออฟทาร์ทาร์ลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟ (ไม่ต้องคน) พอเริ่มเดือด ปิดไฟ ยกลงจากเตา พักไว้ให้เย็น เตรียมไว้ (ถ้าเหลือก็ใส่ขวดเก็บในตู้เย็นไว้ใช้คราวหน้าได้ค่ะ)
      • 2. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง เตรียมไว้
      • 3. ร่อนแป้งเค้ก นมผง ผงฟู ผงวานิลลา และน้ำตาลทรายป่นเข้าด้วยกัน ร่อนทั้งหมด 3 ครั้ง เตรียมไว้
      • 4. ตีผสมไข่ไก่ น้ำเปล่า และเอสพีในโถผสมให้เข้ากันแล้วใส่แป้งที่ร่อนไว้ลงไป ตีด้วยความเร็วสูงสุดประมาณ 5 นาที จนส่วนผสมข้น ฟู และขาว
      •  5. ลดเป็นความเร็วต่ำแล้วใส่น้ำเชื่อมลงไป
      •  6. ค่อย ๆ เทเนยละลายอุ่น ๆ ลงไปตีต่อและปาดอ่างเป็นระยะ ๆ จนส่วนผสมเข้ากันดี ปิดเครื่อง
      • 7. เทส่วนผสมใส่พิมพ์อะลูมิเนียมฟอยล์ (ใส่พิมพ์เบอร์ 4572 ได้ 3 พิมพ์ เหลืออีกเล็กน้อยเทใส่พิมพ์เบอร์ 4618 ได้ 2 พิมพ์)
      • 8. นำเข้าเตาอบ โดยพิมพ์เล็กใช้เวลาประมาณ 18 นาที ส่วนพิมพ์ใหญ่ใช้เวลาประมาณ 35 นาที อบจนสุก 
      • 9. นำออกจากเตา วางพักทิ้งไว้สักครู่แล้วนำไปแช่ตู้เย็นเนื้อจะแน่นขึ้น

สถานที่ท่องเที่ยวจันทบุรี




เนินนางพญา(Noen-nangphaya view point) เป็นจุดชมวิวที่ถูกนับว่าสวยที่สุในภาคตะวันออก บนถนนเฉลิมบูรพาชลทิต ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็น Dream destinations จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ว่าต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง เนินนางพญาตั้งอยู่ระหว่างหาดคุ้งวิมาน และอ่าวคุ้งกระเบน สามารถมองวิวทะเล ชมพระอาทิตย์ตกสวยมาก และชมความงามของถนนโค้งเลียบชายทะเลที่สวยงามอีกด้วย 


 




บริเวณเนินนางพญา ปัจจุบันได้รับการปรับปรุงพื้นที่ ไปหลายส่วนครับ ทั้งตัวถนนและบริเวณจุดชมวิว ถนนบริเวณเนินนางพญานั้น ขึ้นชื่อเรื่องความสวย เป็นถนนแบบสองเลนรถวิ่งสวนกัน และมีการจัดทำเลนจักรยานเป็นสัดส่วนไว้ด้วย ในภาพจะเห็นเป็นเลนสีแดงนั้นละครับ 

บริเวณจุดชมวิวเนินนางพญา สร้างที่จอดรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และรถจักรยานไว้ บริการนักท่องเที่ยวด้วยครับ สำหรับทางเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวก็ทำเป็นบันไดเดินได้กว้างขวางสะอาดตามากๆครับ สร้างโดยกรมทางหวงชนบท และดูแลโดย องค์การบริหารส่วนตำบลสนามไชย 

วิวบริเวณเนินนางพญา น้นเป็นจุดที่ตั้งอยู่ริมทะเล ซึ่งเราจะสามารถมองห็นวิวแบบหน้าผาริมทะเล และถนนโค้งสวย ที่เป็นจุดถ่ายทำภาพยนต์โฆษณามาแล้วหลายเรื่อง กลายเป็นภาพติดตาของนักท่องเที่ยวกันไปแล้ว